ขบวนรถบรรเทาทุกข์ยังจอดนิ่งหลังรบ.ซีเรียยังปะทะกับฝ่ายต่อต้าน

ขบวนรถบรรเทาทุกข์ขององค์กรสิทธิมนุษยชนจำนวนมากยังคงรอเดินทางเข้าไปยังพื้นที่ที่ถูกปิดล้อมในเมืองอเลปโปทางภาคเหนือของซีเรีย หลังจากกองทัพรัฐบาลและฝ่ายต่อ

ต้านยังคงปะทะกันชานกรุดามัสกัส

การปะทะกันเมื่อวันศุกร์ถือเป็นการปะทะที่หนักสุดในรอบสัปดาห์ นับตั้งแต่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลเมื่อคืนวันจันทร์ ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายต่อต้านต่างกล่าวหากันว่าเป็นฝ่ายละเมิดข้อตกลงก่อน เพิ่มความกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อข้อตกลงหยุดยิงที่แสนเปราะบางในครั้งนี้หลังการปะทะกันหลายชั่วโมง สื่อของรัฐบาลซีเรียแถลงการณ์ว่าฝ่ายต่อต้านรัฐบาลเป็นฝ่ายยิงปืนใหญ่ถล่มย่านเกาะบูน ชายแดนกรุงดามัสกัส พื้นที่ที่รัฐบาลซีเรียควบคุมอยู่ ทำให้มีประชาชนบาดเจ็บ 3 ราย แต่องค์กรสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในซีเรีย (SOHR) ระบุว่าการปะทะกันส่วนมากเกิดขึ้นในย่านญุบัร ซึ่งอยู่ติดกับย่านเกาะบูน พื้นที่ที่ฝ่ายต่อต้านเคยควบคุมอยู่เมื่อไม่กี่ปีก่อนท่ามกลางสัญญาณความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้น สหรัฐฯ บอกรัสเซียว่าความร่วมมือทางทหารระหว่างวอชิงตันและมอสโกจะยังไม่เกิดขึ้นจนกว่ามอสโกจะกดดันรัฐบาลซีเรียให้ยอมเปิดเส้นทางเข้าสู่พื้นที่ที่ถูกปิดล้อมต่างๆ เพื่อส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม

ด้านองค์การสหประชาชาติตำหนิรัฐบาลซีเรียที่ไม่ทำตามสัญญาและยังคงล่าช้าในการเปิดเส้นทางส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมสู่พื้นที่ปิดล้อมโดยเฉพาะในอเลปโปที่มีพลเรือนราว 3 แสนคนอาศัยอยู่ในวงล้อมในสภาพที่ขาดแคลนอาหาร น้ำและยารักษาโรคอย่างรุนแรง พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลซีเรียยอมเปิดเส้นทางดังกล่าวในทันทีหลังขบวนรถบรรเทาทุกข์ต้องจอดรอที่ชายแดนตุรกี-ซีเรียมานาน 5 วันแล้ว

ในการพูดคุยทางโทรศัพท์เมื่อวันศุกร์ นายจอห์น เคอรี่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ตำหนินายเซอเกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียที่ยังคงปล่อยให้รัฐบาลซีเรียทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าในเลื่อนเวลาการเปิดเส้นทางช่วยเหลือออกไป ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่อาจยอมรับได้

เคอรี่บอกลาฟรอฟว่าวอชิงตันต้องการให้มอสโกใช้อิทธิพลที่มีเหนือรัฐบาลรัสเซียกดดันให้ประธานาธิบดีบัชชาร อัลอะสัด ของซีเรียยอมเปิดเส้นทางดังกล่าว

#ขุนคมปราชญ์

Cr. white news